พระศรีศากยมุนีที่สร้างขึ้นในปี 2516 ได้ผสมชนวนพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ทั้งของสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสเทวมหาเถร) และพระศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์) มาผสมกับชนวนโลหะวัตถุมงคลหลายพิธี แล้วนำไปหลอมรีดเป็นแผ่นโลหะบางๆ ก่อนนำไปปั๊มเป็นเหรียญ เหรียญจึงออกมาไม่เหมือนเนื้อทองแดงธรรมดา แต่จะออกสีน้ำตาลเข้มเหมือนนวโลหะ มีพระเกจิอาจารย์ดังในยุคนั้นปลุกเสกอยู่หลายรูปด้วยกันอาทิเช่นหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง จังหวัดสมุทรสาคร หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จังหวัดพัทลุง พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง จังหวัดชุมพร หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จังหวัดจันทบุรี พระญาณโพธิ (เข็ม) วัดสุทัศนเทพวราม กรุงเทพมหานคร พระศรีสัจจญาณมุนี (ประหยัด) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร พระพุทธมนต์วราจารย์ วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร พระอาจารย์ผ่อง วัดจักรวรรดิราชาวาส หลวงพ่อสา วัดราชนัดดา กรุงเทพมหานคร หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพมหานคร หลวงพ่อมิ วัดสิงห์ กรุงเทพมหานคร หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จังหวัดลำปาง หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม จังหวัดกาญจนบุรี หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์ จังหวัดศรีสะเกษ หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู จังหวัดลพบุรี หลวงพ่อใหญ่ วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จังหวัดลพบุรี หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต จังหวัดขอนแก่น หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ จังหวัดเพชรบุรี ฯลฯ "กลางเมืองสุโขทัยนี้มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารศ มีพระพุทธรูป มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม มีพิหารใหญ่ มีพิหารอันราม" ข้อความในศิลาจารึกนี้หมายถึง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือวัดมหาธาตุกลางเมืองสุโขทัย อันเป็นที่ประดิษฐานพระศรีศากยมุนี มาแต่เดิม ครั้นสุโขทัยสิ้นฐานะเป็นราชธานี พระวิหารหลวงถูกทอดทิ้งทรุดโทรมและปรักหักพังลง พระพุทธรูปองค์นี้และพระพุทธ รูปอื่นๆ ก็ถูกทอดทิ้งกรำแดดฝนจนชำรุด มีเรื่องเล่ากล่าวถึงพระพุทธรูปพระองค์นี้ในหนังสือ ความทรงจำกรมหลวงนรินทรเทวีว่า "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระบรมราชโองการสำหรับให้สร้างวัดขึ้นกลางพระนคร ให้สูงเท่าวัดพนัญเชิง ให้พระพิเรนทรเทพขึ้นไปรับพระใหญ่ ณ เมืองสุโขทัย ชะลอเลื่อนลงมากรุง ประทับท่าสมโภช ๗ วัน ณ เดือน ๖ ขึ้น ๑๔ ค่ำ ยกลงเลื่อนชักตามทางชลมารค พระโองการตรัสให้แต่งเครื่อง นมัสการพระพุทธ หน้าวังหน้าบ้านตลอดจนถึงที่ ทรงพระประชวรอยู่แล้วแต่ทรงพระอุตสาหะเพิ่มพระบารมีหวังที่จะหน่วงพระโพธิ ญาณ จะโปรด สัตว์ ทำนุบำรุงพระศาสนา เสด็จพระราชดำเนินตามขบวนแห่พระจนถึงพลับพลา ยกพระขึ้นที่แล้วเสด็จกลับ ออกพระ โอษฐ์เป็นที่สุด เพียงได้ยกพระขึ้นถึงที่ สิ้นพระธุระเท่านั้น" ปีรุ่งขึ้นก็เสด็จสวรรคต พระพุทธรูปอัญเชิญขึ้นที่ท่าช้าง วังหลวง ชลอเลื่อน ไปตามถนน หน้าหน้าลาน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชก็เสด็จพระราชดำเนินไปด้วยพระบาทเปล่า แสดงพระราช ศรัทธาใน พระพุทธศาสนายิ่งนักในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวถวายพระนามว่า "พระศรีศากยมุณี" อนึ่ง ที่ผ้าทิพย์ของพระศรีศากยมุนีนี้ ยังเป็นที่บรรจุพระบรมราชสริรังคารของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘ อีกด้วย
This website uses cookies (Learn more) and has a privacy policy (Learn more).